ในความมืดอันกว้างใหญ่ที่ไร้ขอบเขตมีเขาวงกตอยู่ การสร้าง Demiurge ผู้ชั่วร้าย ผู้สร้างโลกและปรมาจารย์แห่งภาพลวงตา สถาปนิกแห่งห้วงลึกแห่งนี้ได้กักขังวิญญาณไว้ในเส้นทางที่บิดเบี้ยวและถูกกำหนดให้ต้องเร่ร่อนอยู่ท่ามกลางเงามืดชั่วนิรันดร์ในโลกที่แสงดูเหมือนไม่มีอะไรมากไปกว่าตำนานที่สูญหายไปจากยุคสมัย ผู้เล่นปรากฏตัวในฐานะความหวังริบหรี่เพียงดวงเดียวในอาณาจักรแห่งความสิ้นหวัง แต่เส้นทางของพวกเขาไม่ใช่หนึ่งในความสำเร็จหรือการต่อสู้ที่กล้าหาญ แต่เป็นการเดินทางที่ทรมานผ่านเครือข่ายแห่งความสิ้นหวัง
เป้าหมายของเกมคือการหาทางออกจากเขาวงกตสำหรับดวงวิญญาณ แต่เส้นทางสู่อิสรภาพไม่ได้ปูด้วยการกระทำหรือการต่อสู้ที่กล้าหาญ แต่กลับเต็มไปด้วยปริศนาและอุปสรรคลึกลับที่ไม่อาจเข้าใจได้ซึ่งรวบรวมแก่นแท้ของความมืดและการไม่มีความหวัง
คุณสมบัติหลักของเกม:
1. **ความมืดที่กลืนกินทั้งมวล**: การไม่มีแสงโดยสิ้นเชิงไม่เพียงแต่สร้างบรรยากาศเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นองค์ประกอบการเล่นเกมที่สำคัญอีกด้วย ผู้เล่นจะต้องเรียนรู้ที่จะ "มองเห็น" เกินกว่าที่มองเห็นได้ โดยใช้ประสาทสัมผัสอื่นเพื่อนำทางในเขาวงกต
3. **บรรยากาศแห่งความสิ้นหวังและความโดดเดี่ยว**: ความรู้สึกของความสันโดษจะทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อไม่มีเสียงใด ๆ เลย ซึ่งเน้นย้ำถึงความโดดเดี่ยวของจิตวิญญาณในโลกนี้ ความเงียบไม่ได้เป็นเพียงองค์ประกอบทางภาพหรือการได้ยินเท่านั้น มันจะเห็นได้ชัดเจนทางร่างกาย ขยายความรู้สึกของความสิ้นหวัง
4. **ทดสอบความสันโดษ**: ตลอดการเดินทาง ผู้เล่นจะไม่พบกับพันธมิตร ศัตรู หรือสิ่งกีดขวางภายนอก การเผชิญหน้าหลักเกิดขึ้นระหว่างผู้เล่นกับเขาวงกตซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่เยาะเย้ยความพยายามที่จะหาทางออก
เกมนี้เป็นการฝึกสมาธิในธีมของความสันโดษ ความมืด และการค้นหาแสงสว่างในความสิ้นหวังอย่างแท้จริง ไม่เพียงแต่กระตุ้นให้ผู้เล่นสำรวจและไขปริศนาเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความลึกของการรับรู้ความมืดและความเงียบของตนเองด้วย ในเขาวงกตนี้ ที่ซึ่งแต่ละย่างก้าวดังก้องอยู่ในความว่างเปล่า ผู้เล่นต้องเผชิญกับความกลัวของตนเอง ความรู้สึกของการหลงทาง และคำถามที่ว่าทางออกนั้นมีอยู่จริงหรือไม่ หรือการค้นหาแสงเป็นเพียงภาพลวงตาที่คงอยู่ด้วยแสงริบหรี่แห่งความหวัง