“จริงเหรอวันวิวาห์ แต่ผมว่าหมออย่างคุณน่าจะวิ่งหนีคนไข้มากกว่า เหมือนที่คุณทำอยู่ตอนนี้ไง คุณกำลังวิ่งหนีอะไร หนีผม หนีความจริง หนีหมอรวิทย์ หรือว่าหนีหัวใจตัวเองกันแน่ แล้วคุณคิดว่าจะหนีพ้นเหรอ” เขาเหมือนจะล่วงรู้ว่าเธอนั้นมีความรู้สึกยังไงกับเขา
“คนอย่างฉันไม่เคยหนีอะไรค่ะ ฉันพร้อมจะรับกับความจริงเสมอ ละที่ฉันมาอยู่นี่ ก็เพราะว่าฉันอยากจะมา ไม่ได้คิดที่จะหนีอะไร หรือหนีใครทั้งนั้น โดยเฉพาะหัวใจตัวเอง” เธอเถียงกลับอย่างไม่ลดละ แต่ดวงตานั้นกลับพยายามหลบหนีการจับจ้องของเขา
“จริงเหรอ งั้นผมขอพิสูจน์หน่อยนะ ว่าปากกับใจคุณจะตรงกันมากน้อยแค่ไหน” สิ้นเสียง วงแขนก็รั้งเอวคอดกิ่ว เข้ามากอดไว้เพื่อสัมผัสกับร่างอันอบอุ่นที่หัวใจเขาเฝ้าตามหา แล้วไม่นานเรียวปากงามก็ถูกเขาประทับจูบลงไปอย่างตั้งใจ โดยที่หญิงสาวไม่ทันได้ตั้งตัว
“ปล่อยนะ ฉันบอกให้ปล่อย” เธอร้องและใช้มือทุบไปตรงไหล่แต่เขาไม่ได้สนใจกับคำร้องขอเลย และแม้เธออยากจะพากายให้ออกจากอ้อมกอดเขายังไงแต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจ เพราะรู้ดีว่าไม่อาจจะขัดขืนได้ เมื่อรู้โดยสัญชาตญาณว่า ไม่มีวันจะห้ามเขาได้อย่างแน่นอน และที่สำคัญเธอไม่อาจห้ามหัวใจไม่ให้หลงใหลกับ สัมผัสจากเขาได้เช่นกัน ถึงแม้จะบอกตัวเองอยู่เสมอมาว่าเขามีเจ้าของที่คอยจับจองแล้วก็ตาม
จากเรียวปากนุ่มเจ้าของหน้าคมก็จมูกเลื่อนลงไปสูดดมแก้มหอม แล้วไล้ลงไปตามซอกคองาม มืออีกข้างถูกสั่งการให้ยกไปควานหาสัมผัสอันอ่อนละมุนจากทรวงอก อวบอิ่ม เต่งตึงอย่างตั้งใจ ชนะชลไม่อาจจะบรรยายได้ว่าการอยู่ใกล้และสัมผัสเรือนกายของเธอนั้นทำให้สุขใจมากแค่ไหน
เขาให้คำตอบตัวเองไม่ได้ว่าปรารถนาเธอมาตั้งแต่หนใด เพราะไม่เคยแยกแยะออกสักครั้ง เท่าที่เขารู้ก็คือ ทุกวินาทีที่ไม่มีเธออยู่ในคฤหาสน์หลังงามนั้น มันช่างเป็นช่วงเวลาที่อ้างว้างว่างเปล่าเหลือเกิน จนเขาเองแทบไม่อยากจะย่างกายเข้าไปเยี่ยมเยือนแม้เพียงก้าวเดียว
สองแขนสลักเสลายกขึ้นไปโอบต้นคอเขาโดยเจ้าของก็ไม่รู้ตัว จากนั้นนิ้วเรียวงามก็ยกขึ้นไปสัมผัสเรือนผมหนานุ่มที่ถูกตัดสั้นเอาไว้อย่างเรียบร้อย และยิ่งทำให้เขาดูดีเหลือเกินในสายตาเธอ ลูกนี้สาวหลับตาพริ้มประหนึ่งจะจดจำสัมผัสที่เขามอบให้ในครั้งนี้เอาไว้ ให้ตราตรึงอยู่ในความทรงจำนานเท่านาน
จมูกโด่งค่อย ๆ ละจากคองามระหง เลื่อนต่ำลงไปดูดดื่มกับยอดเกสรซึ่งบัดนี้ได้ถูกมืออีกข้างครอบครองไว้เมื่อกระดุมถูกมือผู้ชำนาญปลดออกโดยเร็ว ตะขอด้านหน้าของบราตัวน้อยก็ถูกปลดออกอย่างแผ่วเบา จนผู้เป็นเจ้าของเองก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ดวงตาคู่คมเพ่งมองบัวคู่งามที่ชู่ช่อสลอน ประหนึ่งจะรอการดอมดมจากเขาก็ไม่ปาน
ร่างบางถูกเขารั้งเข้าไปหาแผ่นอกกว้างเพื่อเบียดเสียดหาสัมผัสอันรัญจวน มืออีกข้างก็เคล้าคลึงอย่างสุขใจกับความอ่อนละมุนจากอกอิ่ม นิ้วเรียวเผลอกดหนัก ๆ ไปกับแผ่นหลังหนาอย่างลืมตัว ประหนึ่งไม่อยากจะให้เขาหลุดหายไปไหน เมื่อหัวใจอันเหี่ยวแห้งเมื่อหลายเดือนก่อนกำลังชุ่มฉ่ำด้วยความสุขใจอย่างไม่เคยมีมาก่อน
ไม่แพ้กับมือหนาอบอุ่นที่เลื่อนไปตามแผ่นหลังละมุน ควบคู่ไปกับอีกข้างยังคงวนเวียนอยู่กับบัวงาม ส่วนริมฝีปากยังคงควานหาความหอมหวานไม่ห่างหาย และเมื่อค้นพบแล้วก็ยากนักที่จะทอดทิ้งไปได้ เขาจึงปล่อยให้ตัวเองซึมซับความเปรมปรีด์กับการอิงแอบเธอไว้อย่งไม่คิดจะสนใจกับสิ่งรอบกายแต่อย่างใด
เจ้าของอกอวบอิ่มก็ดูเหมือนจะละทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลังไม่แพ้กัน เมื่อปล่อยกายให้แอ่นรับกับการลุกล้ำของเขา เมื่อจมูกโด่งกำลังเลื่อนต่ำลงไปครอบครองยอดบัวงามอีกวาระ มืออีกข้างค่อย ๆ คืบคลานลงไปหาหน้าท้องแอบราบ ซึ่งมีเพียงกระโปรงที่สั้นแค่เข่าปกปิดเอาไว้
“อย่าค่ะ ได้โปรด”
เสียงห้ามปรามของเธอดังขึ้น และนั่นก็เป็นการเตือนสติเขาได้ดีทีเดียว จนต้องจำใจหักห้ามความต้องการอันแรงกล้าที่มีต่อเธอเอาไว้แค่นั้น ทั้งที่ใจจริงแล้วช่างไม่อยากผละออกห่างเลยแม้เสี้ยววินาทีเดียว แต่เขาก็ต้องทำเพื่อให้เกียรติเธอ เพราะลำพังที่เขาทำอยู่ตอนนี้ก็เป็นการรังแกและลงหลู่เธอมากพอแล้ว หน้าผากงามจึงถูกเขาประทับจูบลงไปอย่างนุ่มนวล หลังจากเขาติดกระดุมเสื้อให้แล้ว
keyword: นิยาย, นิยายไทย,หนังสือไทย,ไทย,thai book, Thai novel, Thai ebook, hytexts, หนังสือ, tanyarat