เซบาสเตียน อัลวาโร มาเฟียหนุ่ม พ่อม่ายลูกแฝด คลุกคลีกับ 'อะไรๆ' ของคนไข้ทุกวันจนกลายเป็นคน 'ตายด้าน' กลับรู้สึกเหมือนได้ 'ขึ้นสวรรค์' อีกครั้ง เมื่อได้สบตานักข่าวสาวที่มาใกล้ชิดเขาด้วยจุดประสงค์บางอย่าง...
โรคแพ้ผู้หญิงของเขาหายเป็นปลิดทิ้งยามอยู่ใกล้เธอ แล้วอย่างนี้จะให้เขาปล่อยเธอไปได้อย่างไร อยากจับเจ้าหล่อน ‘ตรวจภายใน’ ตลอดเวลา!
รสิกา เดชพิพัฒนพงศ์ นักข่าวสาวที่ได้รับการ ‘ไหว้วาน’ จาก ‘ใครบางคน’
ให้ทำงานบางอย่าง เธอจึงใช้ความขาวใส ตัวเล็ก น่าฟัด ของตัวเอง
ที่เซบาสเตียนคลั่งไคล้ เข้าหาเขาเพื่อเหตุผลบางอย่าง และผ่านด่าน
สองแฝดและสามทมิฬได้อย่าง่ายดาย แต่กว่าจะผ่านมาเฟียร้าย
ไปได้ต้อง ‘แลก’ กับอะไรหลายอย่าง รวมทั้ง... ร่างกาย!
ตัวอย่าง
"แล้วนี่กำลังทำอะไรกันอยู่”
“กิจกรรมเสริมสร้างจินตนาการสำหรับเด็กค่ะ” หญิงสาวตอบแล้วก้มลงจัดการกับดินน้ำมันในมือต่ออย่างขะมักเขม้น
“อะ...อืม” อย่าว่าแต่เด็กเลย ผู้ใหญ่อย่างเขาก็จินตานาการไปไกลแล้วเหมือนกัน อยากรู้จังว่าถ้ามือนุ่มๆ ของเธอสัมผัสเขาแบบนั้นบ้างจะเป็นยังไง แต่พนันได้เลยว่าร่างกายเขาคงไม่นุ่มนิ่มแน่นอนเหมือนดินน้ำมันนั่นอย่างแน่นอน "เบาๆ ก็ได้จ้ะ" เซบาสเตียนกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อกขณะมองรสิกาทั้งบีบทั้งขยำดินน้ำมันในมืออย่างเมามัน "สงสารมันบ้าง”
“สงสารทำไมคะ มันเป็นแค่ดินน้ำมันไม่เจ็บหรอกค่ะ” รสิกาบอกเสียงจริงจังพร้อมทั้งออกแรงขยำดินน้ำมันในมือแรงขึ้นๆ จนคนมองหน้าเหยเก
“แต่ฉันเจ็บ” ชายหนุ่มบอกอย่างเผลอไผลพลางหยิบหมอนอิงข้างกายมาปิดบังความเจ็บปวดของตัวเอง
************
“ที่นี่โรงพยาบาลนะคะ” รสิกาแย้งอย่างเหนียมอาย
“โรงพยาบาลแล้วไง ความอยากมันไม่เลือกที่เลือกเวลาหรอกยาหยี อีกอย่างถึงเราจะทำอะไรๆ กันในนี้ ก็ไม่มีใครเข้ามารบกวนอยู่ดี เพราะไม่มีใครเข้าห้องนี้ได้ถ้าไม่ได้รับอนุญาต” ปากพูดแต่สองมือไม่อยู่ เอาแต่แตะโน่นตอดนี่อยู่เรื่อย
“วันนั้นพี่เชอรีนยังเข้ามาได้เลย” แถมยังทะเล่อทะล่าเข้ามาเห็นกิจกรรมหวาดเสียวระหว่างเขาและเธอเสียด้วย
“นั่นเป็นกรณีพิเศษ แล้วเชอรีนก็เคาะประตูแล้วด้วย แต่เธอไม่ได้ยินเพราะมัวแต่ทักทายน้องชายฉันอยู่" เซบาสเตียนมองหญิงสาวที่อายก้มหน้างุดจนปลายคางติดกับหน้าอกอย่างชอบใจ
“พูดบ้าๆ คุณบังคับฉันต่างหาก ใครจะสู้มือแข็งแรงของคุณได้ล่ะ” ก็เขาเล่นกดมือเธอแนบไว้แน่นขนาดนั้น หญิงสาวคิดต่อในใจโดยไม่รู้เลยว่าเปิดทางให้เขาเข้าแล้ว
“ไม่ใช่แค่มือนะ อย่างอื่นก็แข็งและแรงไม่แพ้กัน เธอน่าก็รู้ดีไม่ใช่เหรอ” มาเฟียหนุ่มกดสะโพกงามให้สัมผัสความแข็งแรงของตัวเอง "นี่แค่เบาะๆ นะ อยากรู้มั้ยว่าถ้าแข็งแรงจริงๆ จะขนาดไหน”
“ไม่ค่ะ” รสิกาส่ายหน้าดิกปฏิเสธทันควัน ทำท่าจะลุกหนีแต่ไม่อาจทำได้
“ฉันยินดีให้ทดลองฟรีนะ ถ้าเธอพึงพอใจฉันยินดีให้บริการเธอคนเดียวทั้งชีวิต” เซบาสเตียนเสนอ พร้อมบังคับร่างบางให้แนบนิ่งอยู่ตรงนั้นเนิ่นนาน มือข้างหนึ่งเชยคางมนขึ้นมาสบตาหยาดเยิ้มของตัวเอง
“ยังไงก็ไม่เอาค่ะ” หญิงสาวปฏิเสธแล้วหลุบตาวูบไม่อาจต้านทานความเร่าร้อนในสายตาของเขาที่จ้องมองมาราวกับจะกลืนกินได้
“ฉันเอาเองก็ได้ยาหยี เธอแค่อยู่เฉยๆ ก็พอที่เหลือฉันจัดการเอง” คำพูดสองแง่สามง่ามของชายหนุ่มส่งผลให้เลือดในกายหญิงสาวสูบฉีดรุนแรงแข่งกันวิ่งมารวมตัวเป็นจุดเดียวที่สองแก้มนุ่ม
“เลิกล้อเล่นได้แล้วค่ะ” รสิกาเงยหน้าขึ้นสบตาชายหนุ่มอย่างเว้าวอนโดยหารู้ไม่ว่าสายตาแบบนั้นของเธอยิ่งกระตุ้นให้เขาอยากฟัดเธอให้หนำโดยไม่สนคำสัญญาบ้าบอที่ทำให้เขาอดอยากปากแห้งนั่นอีกเลย
“ล้อที่ไหน ฉันเอาจริง เห็นมั้ยว่ามันอยากออกมาทักทายเธอ และอยากโดนมือนุ่มๆ ของเธอลูบปลอบจะแย่แล้ว” คนเคยเสื่อมสมรรถภาพออกแรงกดสะโพกงอนงามเข้ากับความแข็งแกร่งที่อยากลิงโลดออกมาข้างนอกแน่นยิ่งกว่าเดิม หนำซ้ำยังบังคับสะโพกกลมมนให้หมุนวนบนความร้อนรุ่มของตัวเองอีกด้วย
“ถ้าคุณยังไม่เลิกทำให้ฉันกลัว ฉันจะย้ายออกไปอยู่ข้างนอกจริงๆ ด้วย” รสิกาขู่ เมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมหยุด กลัวเรื่องราวจะเลยเถิดไปเหมือนครั้งนั้น ถ้าให้พูดตรงๆ คือเธอกลัวห้ามใจตัวเองไม่ได้มากกว่า เพราะความหฤหรรษ์ในคืนนั้นยังคงติดตรึงอยู่ในหัวเธอตลอดเวลา ถ้าเขาขยันจุดไฟแบบนี้มีหวังร่างกายเธอได้ลุกเป็นเพลิงเผาตัวเองเป็นแน่
“โอเคๆ ฉันไม่ล้อแล้วก็ได้ ว่าแต่ฉันทำให้เธอกลัวจริงๆ เหรอ” ใบหน้างอง้ำของคนบนตักทำให้ชายหนุ่มเลิกหยอกเย้า แต่ก็ยังไม่ปล่อยร่างบางให้เป็นอิสระ แถมยังถามคำถามแฝงนัยที่ทำให้หญิงสาวอายม้วนไปอีกคำรบ
“จริงสิคะ อย่าว่าแต่ฉันเลย ถ้าโดนขนาดนั้นใครๆ ก็กลัวค่ะ” ยิ่งได้รู้จัก เซบาสเตียน อัลวาโร ยิ่งเข้าข่ายโรคจิตเข้าไปทุกที ไม่ผิดใช่มั้ยที่เธอจะรู้สึกกลัว
“ถ้าเธอกลัวขนาดนั้น เธอก็ต้องทำความรู้จักมันให้มากกว่านี้ ทำตัวให้ชินกับมัน สัมผัสมัน รักมันให้มากๆ รับรองว่าอยู่ด้วยกันไปนานๆ เธอจะยิ่งหลงรักมันจนถอนตัวไม่ขึ้น” ชายหนุ่มประคองสองข้างแก้มของหญิงสาวแล้วบังคับให้อีกฝีกฝ่ายสบสายตารุ่มร้อนของตัวเอง
“คุณนี่ชอบโยงเข้าเรื่องใต้สะดืออยู่เรื่อย” คราวนี้หญิงสาวหัวเราะออกมาอย่างอดใจไม่อยู่ พร้อมฟาดเพียะเข้าที่ต้นแขนหนาหนึ่งที
“แน่นอน มันอยู่ในสายเลือดน่ะ” คนที่ไม่เคยรู้สึกกระชุ่มกระชวยมาเกือบสิบปีอย่างเขาต้องเอาทุกเม็ดให้คุ้มค่ากับเวลาที่เสียไป
“ฉันเชื่อค่ะ ฉันถึงบอกว่าพวกคุณน่าจะเปลี่ยนชื่อแก๊งเป็นพ่อม่ายกระหายสวาทไงคะ ได้ข่าวว่าคนอื่นๆ ในแก๊งก็ไม่น้อยหน้านี่น่า”
“ฉันกระหายทั้งรักและสวาทจากเธอคนเดียวเท่านั้นนะ” เซบาสเตียนตอบด้วยความจริงจังทั้งหน้าตาและน้ำเสียง พูดจบก็ก้มลงจุมพิตตรงต้นคอของหญิงสาวพร้อมขบเบาๆ หนึ่งที
“ฉันว่าจะถามหลายทีแล้วว่าทำไมคุณชอบจูบต้นคอจังคะ ฉันจั๊กจี้นะ” เขาทำเหมือนแกล้งเพราะรู้ว่าจุดอ่อนของเธออยู่ที่ต้นคอ
“ฉันกำลังแสดงความเสน่หาอันลึกซึ้งที่มีต่อเธอไง ยิ่งขบเม้มแรงเท่าไรความปรารถนาของฉันก็เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น” พูดพลางก็สาธิตไปพลางจนคอหญิงสาวเริ่มแดงเป็นจ้ำๆ
“แต่ฉันว่าคุณน่ะบ้ากามตลอดเวลาต่างหาก” รสิกาพยายามเบี่ยงคอหนี แต่กลับกลายเป็นการเปิดโอกาสให้ชายหนุ่มได้ทำอะไรๆ ถนัดขึ้นมากกว่าเดิม
“แค่ตอนอยู่ใกล้และได้กลิ่นเธอเท่านั้นแหละ” คราวหนี้ใบหน้าคมคายของชายหนุ่มเลื่อนลงไปซุกซบอยู่ระหว่างทรวงอกอิ่มแล้วสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ ของเธอเข้าปอดฟอดใหญ่ หลับตาพริ้มราวกับตกอยู่ในห้วงแห่งความฝัน
keyword: นิยาย, นิยายไทย, Thai novel, Thai ebook, hytexts, หนังสือ, Vianna